29.9.50

การเดินทางที่ยาวนานกับความมืด ภูกระดึง




หลังจากหายหน้าไปหลายวันก็กลับมาเหลาต่อ ขอแนะนำเพื่อนที่ไปด้วยอีก 2 คนคือ ชุและหนู ส่วนเพื่อนใหม่มี อาร์ม เอก หมู ไก่ ป๊อป นก เบียร์ โอ ถึงตอนที่ไปผาหล่มสัก หลังจากถ่ายรูปพระอาทิตย์ตกแต่ฟ้าไม่เป็นใจฟ้าปิดเลยไม่ได้รูปสวยๆมาและไม่ได้แสงสุดท้ายกลับมา ฟ้ามืดไม่มีแสงไฟฟ้าส่องกลับ หนึ่งในเพื่อนกลุ่มนั้นได้เตรียมโคมไฟทำเองไว้แล้ว โดยเอาขวดพลาสติกน้ำอัดลมมาเจาะเพื่อใส่เทียนไว้ สามอัน รวมกันทั้งหมด 11 คนออกเดินทางกลับเต้นท์ที่พัก ข้างทางมืดมากจนมองไม่เห็นอะไรมีเพียงแสงสว่างจากโคมไฟเท่านั้นเลยต้องเดินเกาะกลุ่มหน้าไว้หน่อยไม่ให้ห่างมากนัก บางครั้งก็เดินสะดุดรากไม้จนป๊อปเอาไฟฉายมาส่องทางให้ (เหมือนเจ้าหน้าที่ป่าไม้เลย) ระหว่างทางได้ยินเสียงหมาหอนกันด้วยจากในป่ามืดๆ เดินไปเทียนใกล้หมดต้องต่อเล่มใหม่ พอเงยหน้าขึ้นมาอีกทีมืดมากเหลือแค่ 3 คน (เรา ไก่ เบียร์) มองไม่เห็นข้างหน้าเลย ต้องรีบเดินตามเพื่อนๆไป เหนื่อยก็พักเหนื่อยตามจุดหยุดพัก การเดินทางช่างยาวนานและแสนไกลกับความมืด เห็นกองไฟก็สงสัยว่าไฟไหม้ป่าหรือเปล่า แต่พอมองดูดีๆอีกที่ก็มีคน พวกเราเดินกันในเส้นทางข้างใน จะมีทางเลาะหน้าผาด้วยแต่คงเสี่ยงเกินไป ระหว่างผาหมากดูดถึงที่พักเจอต้นสนสูงกลางทางเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าดาวเต็มท้องฟ้าสวยอยากจะถ่ายรูปเก็บไว้ แต่ไม่มีสายลั่นชัตเตอร์ และเพื่อนก็อยากจะถึงที่พักไวๆ ขาเราก็แทบไม่ไหวแล้วเหมือนกัน ถึงที่พักเพื่อนเหนื่อจนร้องไห้และหลับไป เราก็เลยหาข้าวกินกับเพื่อนอีกคนแต่ไม่อาบน้ำมันเย็นเหมือนน้ำแช่ในตู้เย็นเลยเช้าค่อยอาบที่เดียว เพื่อนใหม่ก็ยังมีน้ำใจ้ป็นห่วงเอายามาให้กลัวปวดขากัน ฮืม..ก็นิสัยใช้ได้นะ...ยังเหลือตอนกลับอีก เบื่อกันหรือยังเนียเล่าเรื่องยืดยาวขนาดนี้แต่เดี๋ยวคราวหน้ามีบทสรุป จบของการเดินทางครั้งนี้......

ไม่มีความคิดเห็น: